รีวิว ซีรีย์ Death Note (2015) อาจจะไม่ได้ดีเท่าต้นฉบับ แต่ก็เป็นการตีความตัวละครแบบใหม่ได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย

Death Note (2015)





เรียกได้ว่าเรื่องราวของสมุดสังหารเล่มนี้ ไม่ว่าจะเอามาบอกเล่าใหม่อีกซักกี่เวอร์ชันก็ยังทำให้คนดูอย่างเราทั้งสนุก ตื่นเต้น และลุ้นระทึกไปกับการฟาดฟันมันสมองของตัวละครหลักอย่างไลท์และแอลเสมอ




ซีรีย์เรื่องนี้ก็เป็นดังเช่นเวอร์ชันอื่นๆ คือการบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครไลท์เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยผู้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขในโลกของตัวเอง และวันหนึ่งเขาเกิดได้ไปสัมผัสกับสมุดโน้ตเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า “Death Note” 

สมุดที่หากเขียนชื่อใครลงไป คนๆ นั้นจะต้องตาย
 

การได้รับอำนาจอันยิ่งใหญ่จากพระเจ้ามาอยู่ในมือทำให้ไลท์สถาปณาตัวเองขึ้นมาในฐานะคิระผู้ตัดสินใจที่จะล้างบางโลกใบนี้ให้กลายเป็นโลกที่ไร้ซึ่งอาชญากร แต่ความตั้งใจของเขามักถูกหยุดยั้งไว้ด้วยความฉลาดของแอลสุดยอดนักสืบระดับโลก ผู้มีเป้าหมายคือการหยุดยั้งการกระทำของคิระให้ได้


สิ่งนึงที่เราชอบมากๆ เกี่ยวกับเดดโน้ตตั้งแต่เวอร์ชันออริจินัล ตั้งแต่ผู้สร้างเรื่องราวนี้ขึ้นมาเลยนั่นก็คือ การที่เราแทบจะได้เห็น

การต่อสู้ระหว่างพระเจ้าและมนุษย์” 

 พลังที่อยู่ในมือของไลท์มันยิ่งใหญ่และเหนือจริงเกินกว่าที่จะคิดว่าจะมีใครซักคนกล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อกรกับมัน แต่ตัวละครแอลทำได้ ตัวละครที่ไม่ได้มีพลังพิเศษอะไร แต่เขากลับใช้ความฉลาดและแนวคิดบางอย่างที่สามารถวัดได้กับไลท์ ที่อีกนิดจะเป็นการต่อสู้กับพระเจ้าหรือยมฑูตอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งที่ทำให้เดดโน้ตนั้นน่าสนใจและน่าติดตามมาอยู่เสมอ


พูดถึงเวอร์ชันนี้ เป็นเวอร์ชันที่ยาวกว่าเวอร์ชันภาพยนตร์ แต่ไม่ได้ยาวมากเท่าเวอร์ชันอนิเมะ ดูง่ายจบง่ายและอินง่าย เรารู้สึกว่าในด้านเนื้อหานั้นค่อนข้างคล้ายกับอนิเมะพอสมควร มีเพียงการปรับโครงสร้าง ปรับตัวละครหรือสถานที่นิดหน่อยเพื่อให้สามารถถ่ายทำได้ แต่ในแง่ของเส้นเรื่องและไทม์ไลน์หลักคือเกือบจะมาทางเดียวกับอนิเมะเลย สำหรับเรา เรารู้สึกว่าเส้นเรื่องในเวอร์ชันนี้ถือว่าทำได้ดี กระชับเข้าใจง่าย แต่ก็ยาวพอให้ได้ขยี้เรื่องราวต่างๆ และทำให้เราได้ผูกพันกับตัวละครได้


สิ่งที่คนพูดถึงกันเยอะคือเรื่องของตัวละคร ที่มีคาแรกเตอร์ค่อนข้างแตกต่างจากในอนิเมะพอสมควร แต่สำหรับเรา เรารู้สึกว่ามันเป็นการตีความตัวละครออกมาได้อย่างน่าสนใจในอีกรูปแบบนึง ไลท์ไม่ได้เป็นไลท์อัจฉริยะ แต่มีความเป็นคน มีความผิดพลาด มีความรู้สึก ส่วนแอลก็เป็นแอลที่ไม่ได้เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูน แต่มีความเป็นคนฉลาดที่มีนิสัยเป็นเด็ก เรารู้สึกว่าตัวละครหลักทั้งคู่เป็นคนที่มีความจับต้องได้มากขึ้นกว่าในอนิเมะมากๆ ยกเว้นเพียงตัวละครเนียร์กับเมลโล่ที่แอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะจากที่คนอื่นเขาดูมีความสมจริงมากขึ้น แต่ตัวละครเนียร์ (เมลโล่) นี่กลับเหมือนหลุดออกมาจากในการ์ตูนซักเรื่อง เลยทำให้โทนเรื่องแอบขัดตาไปนิดหน่อย


สิ่งที่ชอบในเวอร์ชันนี้ เรารู้สึกว่าเรื่องราวมันสมจริงมากขึ้น แม้ว่าเมนเรื่องมันจะเหนือจริงมากแค่ไหน ซีรีย์สามารถดึงเอาความเหนือจริงตรงนั้นมาแบไว้กับพื้นโลกแห่งความเป็นจริงของเราได้ และอย่างที่บอกว่าตัวละครทุกตัวนั้นไม่ได้เก่งแบบเป็นอัจฉริยะ ทุกคนมีจุดบกพร่องบางอย่างที่ไม่ทำให้เรารู้สึกเอียนกับสกิลพระเอกจนล้น และที่สำคัญเรารู้สึกว่าเวอร์ชันนี้ทำให้เราเห็นพื้นเพของตัวละครมากขึ้น เห็นพัฒนาการและเหตุผลของการกระทำของตัวละคร มันทำให้เราเข้าใจเขาได้ว่าทำไมเขาถึงแสดงออกในสิ่งที่เราเห็น


อีกสิ่งที่ชอบและอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองตัดสินใจดูเลยคือตัวละครไลท์นักแสดงสามารถถ่ายทอดความเป็นไลท์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์จนน่าขนลุก เดิมทีไลท์คือเด็กผู้ชายธรรมดาๆ ผู้อ่อนโยน ผู้รักความยุติธรรม แต่เดดโน้ตทำให้จิตใจเขาเปลี่ยนไป กลายเป็นคนที่โหดเหี้ยมและยึดมั่นถือมั่นในตัวเอง สายตาของมาซาทากะ คุโบตะนั้นสามารถพัฒนาจากสายตาที่แสนใสซื่อบริสุทธิ์ กลายมาเป็นสายตาอันโหดเหี้ยมที่สามารถฆ่าคนได้โดยไม่รู้สึกอะไร เราหวาดกลัวสายตาแบบนั้น รอยยิ้มแบบนั้นของเขา และสายตาทั้งคู่นั้นสามารถสลับไปมาได้ราวกับเป็นคนละคน ซึ่งถ้าใครเคยได้ดูอนิเมะมา คือเหมือนในอนิเมะเลย จากไลท์ตาแป๋วกลายเป็นไลท์ตาแดงเหี้ยม สุดยอดการแสดง ต้องลองดูด้วยตัวเองจริงๆ


สำหรับใครที่ชอบดูซีรีย์สืบสวนสอบสวน ลุ้นระทึกหรือว่าเลี้ยวโค้งหักมุม เดดโน้ตจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เรียกได้ว่าขนาดเราที่เคยดูเวอร์ชันอนิเมะมาแล้ว มาดูเวอร์ชันนี้อีกครั้งยังแทบจะอดนอนดูจนจบ เพราะมันหยุดไม่ได้จริงๆ อยากจะรู้ว่าตอนต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ตัวละครนี้จะแก้ปัญหา จะเอาคืนยังไงกันต่อ และหากยังไม่เคยดูเวอร์ชันอนิเมะที่เป็นออริจินัล เราก็อยากแนะนำให้ได้ดู เพราะสิ่งที่เวอร์ชันอนิเมะทำไว้ได้ดีกว่าคือความเชือดเฉือนความฉลาดของตัวครที่แยบคายกว่า ความคมของบทมันชัดเจน ความกริบของการต่อยหมัดสวนกันคนละฮุคสองฮุคมันรุนแรงแล้วก็ร้องซี้ดได้ทุกฮุค ถ้าในเวอร์ชันทีวีซีรีย์นี้ยังเป็นฮุคที่มีความหน่วงๆ เอื่อยๆ อยู่บางช่วง


8/10

I Know You Have Good Taste :)



Click ME


👇



ดูจบแล้วมาคุยกัน

เปิดมาตอนแรกเห็นหน้าไลท์ เห็นไลท์เป็นแฟนคลับมิสะมิสะคือมันทำให้เราอยากจะปิดเลยจริงๆ (ฮ่าาา) ความรู้สึกแรกมันไม่ใช่เลย ไลท์ผู้เป็นอัจฉริยะ ผู้เอาชนะแอล ผู้เป็นคิระ จะมาเป็นคาแรกเตอร์แบบนี้ไม่ได้!! แต่พอดูไปเรื่อยๆ ก็รู้เลยว่ามาซาทากะ คุโบตะนั้นสุดยอดแค่ไหน เขาสามารถพลิกตัวละครของตัวเองจากผู้ชายธรรมดาๆ ผู้แสนจืดจางคนนึง ให้กลายเป็นคิระผู้มีออร่าแห่งอำนาจแบบนั้นได้ สายตาเวลามองแอลมันแบบ เหมือนไลท์ในอนิเมะเวอร์ชันตาแดงส่งกระแสจิตเป๊ะเลย สุดยอดมาก


ตัวละครไลท์เราว่าบิ้วมาดีมากจริงๆ ในเวอร์ชันนี้ เราเชื่อว่าเขาทำไปเพราะอะไร การใส่สตอรี่คุณพ่อถูกจับเป็นตัวประกันมามันช่วยดันเนื้อเรื่องได้ดี รวมถึงการเป็นแฟนคลับมิสะมิสะด้วย เรื่องราวมันค่อยๆ สร้างความเป็นคิระในตัวไลท์ให้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่แอลตายเรายังรู้สึกว่าเขามีความเสียใจ (หรืออาจจะเสียดาย) ซักแว้บนึง แต่ซีนที่พ่อตัวเองตายเรากลับไม่รู้สึกเชื่อเลยว่าไลท์เสียใจ มันกลายเป็นจากตัวละครที่รักความยุติธรรมมากๆ รักครอบครัวมากๆ เปลี่ยนไปเป็นเพียงการต้องการกำจัดทุกคนที่มาขวาง เรียกได้ว่าถูกยมฑูตครอบงำไปแล้วจริงๆ 


“ความยุติธรรมนั้นถูกต้องเสมอ” คือสิ่งที่แอลพูดให้คิระฟัง มันเป็นการตั้งคำถามกับคนดูอย่างเราเหมือนกันว่าตกลงแล้วคุณเลือกข้างใคร ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางมุมเราเองก็แอบเข้าข้างคิระ แม้สิ่งที่เขาทำมันอาจไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง แต่ในชีวิตจริง ความยุติธรรมนั้นก็ไม่ได้จัดการทุกอย่างอย่างซื่อตรงเสมอไป มันก็จะมีความคิดวนๆ อยู่ในหัวว่าตกลงแล้วหากต้องเลือกข้าง เราจะอยู่ข้างใครระหว่างไลท์หรือแอล 


สำหรับเรา เรารู้สึกว่าสิ่งที่คิระทำมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผิด หากว่าคนที่ทำนั้นไม่ได้อยู่ในฐานะมนุษย์ ด้วยความเป็นมนุษย์ ต่อให้มีความมุ่งมั่นขนาดไหน แต่สุดท้ายเราเองก็ยังมีอารมณ์และความรู้สึก มีอคติและความเอนเอียงบางอย่างที่ไม่สามารถยกมันมาเป็นมาตรฐานในการครองโลกหรือพรากชีวิตใครได้ ถ้าเป็นพระเจ้าหรือยมฑูตที่ยกตัวเองอยู่เหนือความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ไป เราว่าพวกเขาสามารถใช้เดดโน้ตตามความต้องการแบบไลท์ได้ ด้วยมาตรฐานที่เท่าเทียม และไม่ได้ผูกมันไว้กับความหลงระเริงในอำนาจในมือตน


เวอร์ชันนี้เรายังไม่ค่อยเชื่อว่าไลท์ต้องการเปลี่ยนโลก ช่วงแรกๆ อาจจะใช่ ซีรีย์บิ้วมาด้วยประสบการณ์ที่เขาต้องเจอแต่ละอยากมันทำให้เขาเฝ้าตามหาความยุติธรรมในทางที่ผิด แต่นับวันเข้ากลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เขายึดถือคือความยิ่งใหญ่ของ “คิระ” เรารู้สึกว่าคิระเวอร์ชันนี้ดูกระหายอำนาจในมือ สุดท้ายแล้วเขาอาจไม่ได้ต้องการเปลี่ยนโลกใบนี้ให้กลายเป็นโลกที่ไร้อาชญากร แต่เปลี่ยนให้มันเป็นโลกที่ประชากรทุกคนเชื่อฟังในตัวเขาและวิธีการของเขาซะมากกว่า


ซีนในกองไฟตอนจบคือจิตมาก ชอบ แต่เสียดายที่ปล่อยนานไปนิดนึง เรารู้สึกว่าถ้าสามารถทำให้มันกระชับกว่านี้ ให้คนดูสามาระซึมซับทุกช่วงอารมณ์ได้ตั้งแต่ต้นจนจบน่าจะทำให้อินมากขึ้น


ตัวละครทีมสืบสวนคิระแทบจะเอามาจากอนิเมะทั้งเซ็ตเลย ชอบมากๆ เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนทุกคน 


สุดท้าย เราชอบตอนจบมากๆ เราชอบการที่แอลยังคงเชื่อในตัวไลท์แม้ในวินาทีสุดท้าย แม้โอกาสที่ไลท์จะไม่ใช่คิระจะมีไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ แต่แอลก็ยังคงเชื่อ และอัดวิดีโอสั่งเสียเผื่อเอาไว้อีกเซ็ต เราชอบความสัมพันธ์ของไลท์กับแอลในเวอร์ชันนี้ เป็นเวอร์ชันที่ทำให้เราเชื่อว่าแอลจริงใจกับไลท์จริงๆ และหากทั้งคู่ไม่ได้มาเจอกันเพราะการเป็นแอลกับคิระ เราว่าทั้งคู่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้อย่างแน่ๆ น่าเสียดายที่เราคงไม่ได้เห็นภาพนั้น

ความคิดเห็น