Fight Club ดิบดวลดิบ
เป็นหนังที่เท่ ถ่อย คมกริบบาดตาบาดใจ ไม่แปลกที่ทำไมถึงมีคนรัก Fight Club มากขนาดนี้
หนังเล่าถึงชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตวนลูปไปกับการทำงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมกับอาการนอนไม่หลับหลายเดือนที่ทำให้ชีวิตเขาดูซอมซ่อเต็มที วันนึงเขามีโอกาสได้รู้จักกับ ‘ไทเลอร์’ ผู้ทำให้เขาได้พบ ‘FIGHT CLUB’ และนั่นจะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
‘กฏข้อแรกคือห้ามพูดถึงไฟต์คลับ’
บทบาทของ Edward Norton และ Brad Pitt ใน fight club นั้นดีมากๆ เราชอบสายตาและท่าทางของเอ็ดเวิร์ดมาก เขาสามารถส่งความหมดอาลัยตายอยากในชีวิตออกมาในตอนต้นเรื่อง และค่อยๆ พัฒนาพาตัวละครของตัวเองไปจนถึงความคลั่งขั้นสุดได้อย่างเป็นธรรมชาติ
9/10
I Know You Have Good Taste :)
Click ME
👇
ดูจบแล้วมาคุยกัน
มีคนบอกว่าหนัง base on เรื่องราวของระบบนาซี ซึ่งพอคิดดูดีๆ แล้ว เรื่องราวมันเกิดจากการที่ผู้เล่าเรื่องกลายเป็นคนไร้ความรู้สึกในชีวิตจริงของเขา เขากลายเป็นคนไร้ซึ่งความรู้สึกของการเป็นมนุษย์จนถึงขั้นต้องไปรวมกลุ่มบำบัด มันเลยทำให้เขาสร้างตัวตนของคนที่เขาอยากจะเป็น ตัวตนของอิสระที่เขาจะสามารถทำอะไรก็ได้
‘เพราะเมื่ออยู่ในจุดที่ไม่มีอะไรจะเสีย เราจะเป็นอิสระ’
เราชอบการใส่อาการนอนไม่หลับเข้ามาในเรื่อง เคยอ่านหนังสือเล่มนึง เขาบอกว่า การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญ มีเหตุผลลับอีกข้อนั่นคือ ‘ความฝัน’ ภายในมนุษย์เรามีจิตใต้สำนึกที่ถูกกักขังไว้อยู่ในใจ ด้วยความที่เราเป็นมนุษย์ เราจึงสามารถเก็บสัญชาตญาณตรงนั้นไว้ได้ และเจ้าสิ่งนั้นถูกปลดปล่อยออกมาในความฝัน (เรามักจะฝันในเรื่องบ้าๆ ที่ไม่อาจเกิดขึ้น หรือไม่ได้เป็นตัวเราเลย) เมื่อไหร่ที่มนุษย์ไม่ได้หลับ พวกเขาจะไม่ได้ฝัน และสัญชาตญาณดิบตรงนั้นจะถูกปล่อยออกมา ในเรื่องนี้ ตัวตนที่ผู้เล่าเรื่องกักเก็บไว้ในใจคือ ‘ไทเลอร์’ ผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความอึดอัด ความเศร้า ความกลัว และความเกลียดต่อระบอบสังคมทุนนิยมจนอยากจะที่หลบหนีและทำลายล้างมันให้หมดสิ้น
สิ่งที่ยิ่งทำให้เชื่อว่าผู้เล่าเรื่องจะสามารถสร้างตัวละครไทเลอร์ขึ้นมาได้อีกอย่างนึงคือการที่เขาถึงขั้นต้องไปรวมกลุ่มบำบัด ซึ่งเป็นกลุ่มบำบัดของคนเป็นโรคร้ายแรง คนกำลังจะตาย คนที่เต็มไปด้วยความเศร้า เพราะเขาต้องการไปสัมผัสถึง ‘ความเจ็บปวดของจริง’ อย่างที่คุณหมอบอก ซึ่งจากในเรื่อง ตัวผู้เล่าเรื่องเองไม่ได้มีท่าทีเศร้าหรือเห็นใจคนที่มาบำบัดเลยด้วยซ้ำ เรามองว่าตัวเขาเองกลายเป็นคนในระบอบที่ไร้ความรู้สึกของความเป็นมนุษย์จนถึงขั้นต้องไปตามหาสิ่งที่ทำให้เขารู้ว่าเขายังรู้สึกอยู่ เหมือนคนกรีดข้อมือตัวเองที่กรีดให้รู้ว่าตัวเองยังมีความรู้สึกเจ็บปวดอยู่นะ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าตัวเขาเองแทบจะไร้ซึ่งความเป็นคนไปแล้วจากการถูกกดไว้ด้วยระบอบต่างๆ รอบตัว
ซีนต่อยตัวเองเพื่อขู่หัวหน้างานของเอ็ดเวิร์ดคือยอดเยี่ยมมากๆ เรากลัวในแววตาโรคจิตแบบนั้นของเขา เขาทำให้เราเห็นว่าตัวละครนี้สามารถสร้างอีกบุคลิก ที่สามารถลุกขึ้นมาต่อยตีทำร้าย รวมถึงอาจจะฆ่าเขาได้จริงๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น