รีวิว In this corner of the world : เปี่ยมไปด้วยพลังแม้ในวันที่มีสงคราม

  In This Corner Of The World 

แค่วาดฝัน ให้โลกสวย



ในโลกแห่งสงครามที่ความโหดร้ายเกาะกินทุกพื้นที่
แต่ยังมีมุมเล็กๆ ในใจนี้ที่เต็มไปด้วยความหวัง


นี่เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตเราที่ทุกคนในโรงพร้อมใจกันลุกขึ้นปรบมือให้หลังหนังจบ

    ในชีวิตนี้มีภาพยนตร์เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น ที่ทุกคนในโรงจะพร้อมใจกันยืนปรบมือให้หลังจากหนังจบ และเรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในนั้น ทันทีที่ทุกคนปรบมือ น้ำตาเรานั้นไม่สามารถหยุดไหลได้เลย

    ประทับใจมาก มากเกินกว่าที่คาดหวังไว้หลายเท่า ตอนแรกที่เข้าไปดูเรารู้เพียงแต่ว่ามันเป็นหนังสงคราม คิดไว้ว่าน่าจะมีเศร้าจากการสูญเสีย หรือผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่เรื่องนี้มันพาเราไปไกลกว่านั้น ถ้าคุณเคยดูสุสานหิ่งห้อยแล้วหยุดหน่วงไม่ได้ สำหรับเรา ขอสารภาพว่าเรื่องนี้หนักกว่าสุสานหิ่งห้อยหลายเท่า แทบจะขาดใจให้ได้ระหว่างที่ดู มันจุกและเจ็บไปทั้งหัวใจ อยากกลับบ้านแล้วทิ้งตัวลงนอนมองเพดานนิ่งๆ ซักสองสามชั่วโมงจนกว่าตัวเองจะหายซึม 

    In this corner of the world เป็นหนังญี่ปุ่นที่เล่าถึงชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อยู่ๆ ก็ถูกสู่ขอให้แต่งงาน ต้องย้ายเข้าบ้านผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก ย้ายเมืองที่เคยอยู่มาทั้งชีวิต ในขณะที่สถานการณ์ในประเทศตอนนี้ก็กำลังเกิดสงครามโลกกับฝ่ายสัมพันธมิตร การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มาพร้อมความโหดร้ายจากสงคราม มันดูเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกิกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงจะรับไหว แต่แอนิเมชันเรื่องนี้จะพาเราไปสำรวจ "มุมเล็กๆ" ในหัวใจ ที่จะพาให้เธอผ่านพ้นเหตุการณ์เหล่านี้ไปให้ได้

    พอพูดถึงสงครามโลก ประเทศที่นึกถึงประเทศแรกๆ ก็คงหนีไม่พ้นญี่ปุ่น มันมีความรู้สึกว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่โดนหนัก ดูเป็นฝ่ายที่น่าสงสารและเสียหายมาก (ซึ่งพอมาดูประวัติศาสตร์จริงๆ แล้วทางญี่ปุ่นเองก็ทำประเทศอื่นไว้เยอะเช่นกัน แต่อาจจะด้วยสื่อที่เราเสพ ภาพยนตร์ หรือ Soft Power ต่างๆ ที่ทำให้เรามักจะรู้สึกว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าสงสารกว่าชาวบ้านเค้า) หนังเรื่องนี้มันเหมือนขยี้จุดตรงนั้น หนังเอาความน่าสงสารพวกนี้มาบี้ซะเละในหนัง ทำให้คนดูอดเห็นใจกับชาวญี่ปุ่นในช่วงนั้นไม่ได้
  
    เราชอบการที่แอนิเมชันไม่ได้พยายามบิ้วตัวเองให้เป็นหนังเศร้า ไม่ได้มีสัญญาณอะไรคอยมาบอกเราตลอดเรื่องว่า "ตอนนี้จะเศร้าแล้วนะ" หรือว่า "ซีนนี้มีคนตาย ร้องไห้ได้แล้ว" มันไม่มีเลยจริงๆ ทุกอย่างมันไหลไปตามเรื่องอย่างที่ควรจะเป็น ตัวแอนิเมชันเพียงบอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งและชีวิตประจำวันของเธอ ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ เรียบๆ ไม่ได้มีอะไรหวือหวา มีความสนุกสนาน ร่าเริง รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีพื้นหลังฉากเป็นภาพความโหดร้ายของสงคราม 

    ตลอดเวลาที่ดูมันเต็มไปด้วยรอยยิ้มจริงๆ แต่แอนิเมชันเองสามารถดึงอารมณ์เรามาจากความสุขเหล่านั้น มากลายเป็นว่าตอนจบร้องไห้แทบจะเป็นบ้าได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบ

 ซึ่งในระหว่างที่ร้องไห้ ก็ยังมีรอยยิ้มอยู่มุมปากตลอดเวลา

 

    อารมณ์ความรู้สึกแบบนี้มันเป็นความรู้สึกที่ดี และพิเศษมากสำหรับเรา ราวกับว่าตลอดชั่วโมงกว่าๆ ที่เราได้มองเห็นตัวเอกในเรื่องดำเนินเรื่องผ่านเรื่องราวที่เบาสบาย มีรอยยิ้ม มีมุกตลกแทรกมาเรื่อยๆ เราได้รับความสุขตรงนั้นเต็มที่ แต่ภายในใจลึกๆ เราก็รับรู้ได้เช่นกันว่าชีวิตของเธอนั้นไม่ได้สนุกหรือมีความสุขอย่างที่เธอแสดงให้เราเห็น มันเป็นความคอนทราสต์ของสองขั้วอารมณ์ที่ตีกันอยู่ในใจมาตลอดเรื่อง และมาพังทลายลงในตอนจบของหนัง ซึ่งเหมือนกับว่าคนดูอย่างเราไม่ทันได้ตั้งตัวกับอารมณ์ที่ตีเข้ามา ณ ตอนนั้น มันเลยอยู่ในสภาวะช็อก ไม่รู้จะร้องไห้หรือจะยิ้ม ไม่รู้จะเศร้าใจหรือมีความสุข อารมณ์ตรงนี้มันค้างอยู่ในใจให้นอนคิดไปได้อีกหลายวันเลยทีเดียว

    แอนิเมชันนี้ทำสำเร็จในการเล่าเรื่อง "มุมเล็กๆ ในโลกใบใหญ่" ชื่อเรื่องยาวๆ อย่าง In this corner of the world ตอนที่อ่านครั้งแรกในโปสเตอร์เราไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันเลย แต่พอได้ดูจนจบ เราว่านี่เป็นชื่อเรื่องที่ใช่และเหมาะสมที่สุดเท่าที่ควรจะเป็นสำหรับแอนิเมชันเรื่องนี้แล้ว เพราะมุมเล็กๆ บนโลกใบใหญ่อันแสนโหดร้ายในหัวใจผู้หญิงคนนี้มันสวยงาม สวยงามซะจนทำให้เราลืมมองความโหดร้ายของสงครามไปเสียสนิทหากหนังไม่ได้ตอกย้ำให้เราเห็นมันอีกครั้งในตอนจบ 
    
    นอกจากเนื้อเรื่องที่ดีต่อใจแล้วนั้น ภาพแอนิเมชันในเรื่องนี้สวยมากจริงๆ เราชอบการที่ตัวเอกในเรื่องชอบวาดรูป และหนังมักจะเอารูปที่เธอวาดเข้ามาประกอบในเรื่อง สิ่งที่เราได้เห็นมันกลายเป็นภาพซ้อนภาพแล้วเหมือนเราได้หลุดเข้าไปในรูปวาด หลุดเข้าไปอยู่ในอีกโลกนึงที่เหนือความเป็นจริงขึ้นไปอีก สิ่งนี้เป็นอีกสิ่งที่ทำให้เรามองเห็นแต่ด้านแห่งความสวยงามเหมือนกับที่ตัวเอกมองเห็น จนลืมมองสงครามที่เกิดขึ้นในเรื่องไป เราได้เสพความงาม ความเบาสบายของลายเส้นจากเรื่อง จนความหนักอึ้งจากความตายของผู้คนได้หายไปจากความคิดไปซักพัก เราคิดว่านี่ก็คงเป็น "มุมเล็กๆ" ในใจของตัวเอกที่ใช้ในการหลบหนีความโหดร้ายในโลกแห่งความเป็นจริงเช่นกัน


9/10

I Know You Have Good Taste :)



Click ME


👇

                

    

            


ความคิดเห็น